วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า
วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า นักวิ่งบางท่านอาจคิดว่า “การวิ่งยังไงก็ต้องปวดเข่าอยู่แล้ว” ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด!! เนื่องจากการวิ่งที่ถูกต้อง ด้วยความพร้อมที่เพียงพอของกล้ามเนื้อ และสรีระท่าทางที่เหมาะสม จะต้องไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บของเข่าอย่างแน่นอน
ก่อนอื่นเราจะต้องทราบก่อนว่า อาการเจ็บเข่าจากการวิ่ง มีอะไรได้บ้าง อาการเป็นยังไง และมีสาเหตุมาจากอะไร จะทำให้เราสามารถป้องกันและแก้ไขได้
เอ็นสะบ้าอักเสบ (Patellar Tendinitis)
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า-2-600x320.jpeg)
อาการที่พบ : เจ็บปวดบริเวณลูกสะบ้าที่อยู่ใต้เข่า ยิ่งหากอยู่ในท่างอเข่าจะยิ่งรู้สึกปวด
สาเหตุ : เกิดจากการวิ่งที่มีเนินเขา หรือพื้นไม่เรียบ
การดูแลรักษา : พักการวิ่งออกกำลังกาย แล้วประคบด้วยน้ำแข็ง 15-20 นาที 3-4 ครั้งต่อวัน
การป้องกัน : ยืดเหยียดกล้ามเนื้อในท่าที่ช่วยให้บริเวณเข่า ต้นขา และน่องได้ผ่อนคลายทั้งก่อนและหลังวิ่ง ค่อยๆเพิ่มระดับความเข้มข้นของการฝึกซ้อมแบบค่อยเป็นค่อยไป
กระดูกอ่อนข้อเข่าอักเสบ (Runners Knee)
หรือ Patellofemoral Pain Syndrome (PFPS)
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า-3-600x438.jpeg)
อาการที่พบ : ปวดบริเวณเข่า มีอาการมากเมื่อมีการขึ้นลงเนิน หรือมีการงอเข่า
สาเหตุ : เกิดจากการวิ่งที่เพิ่มความเร็วหรือระยะทางที่มากเกินไปขาดการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การขึ้นเนินหรือบันไดที่สูงชัน
การดูแลรักษา : พักจากการวิ่ง แล้วประคบด้วยน้ำแข็ง 15-20 นาที วันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น
การป้องกัน : ยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังออกกำลังกายสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม วิ่งในพื้นที่ไม่แข็งและเนินสูงจนเกินไป
วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า รู้หรือไม่ว่าในขณะที่วิ่ง เรามีการลงน้ำหนักอยู่บนขาข้างเดียว ซึ่งจะต้องรับน้ำหนักถึง 2.5 เท่าของน้ำหนักตัว
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า-4-1.jpg)
ดังนั้นหากเรามีท่าทางการวิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็จะส่งผลอย่างมากต่อข้อเข่า ซึ่งสิ่งที่ควรทำในขณะที่วิ่งก็คือการวางส้นเท้าให้อยู่ใต้ต่อกระดูกรองนั่ง (sit bone) เพื่อให้เข่าสามารถรองรับน้ำหนัก 2.5 เท่าได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง เพราะถ้าหากคุณวางเท้าไปทางด้านหน้ามากเกินไป หรือที่เรียกว่า Over striking ก็จะทำให้เกิดการบาดเจ็บของข้อเข่าแน่นอน
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า-4-300x225.png)
และอีกสิ่งที่สำคัญนอกจากท่าทางในการวิ่งแล้ว นั่นก็คือ Posture
ก่อนเริ่มโปรแกรมการรักษาฟื้นฟู ทาง Le Physio Clinic จะมีการทำ Body reading และ Posture analysis เพื่อประเมินสรีระของร่างกาย การจัด alignment หรือการวางตัวของข้อต่อ ซึ่งอาจส่งผลต่อท่าทางในการวิ่ง รวมถึงการทรงตัวบนขาข้างเดียว
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า-225x300.jpg)
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้ปวดเข่า-2-225x300.jpg)
เช่น ผู้ที่มีปัญหาการผิดรูปของข้อเข่า เช่น เข่าบิด ขาเป็ด ขาโก่ง ก็อาจะมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ข้อเข่าได้มากกว่า ซึ่งภาวะดังกล่าว ไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขเสมอไป เพียงแค่คุณปรับเปลี่ยนการทำงานของกล้ามเนื้อให้เกิดความสมดุล
![](https://lephysioclinic.com/wp-content/uploads/2021/08/วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า-3-300x214.jpg)
วิ่งยังไงไม่ให้เจ็บเข่า วิธีการที่เราจะช่วยรักษาคุณ
- Physiotherapy treatment ทางกายภาพบำบัดของ Le Physio Clinic เราสามารถให้การรักษาได้ตั้งแต่ในระยะแรกของการบาดเจ็บ ซึ่งอาจจะมีอาการอักเสบ ปวดบวมแดงร้อน ซึ่งการรักษาจะเป็นการประคบเย็นเพื่อลดการขยายตัวของหลอดเลือด ลดอาการอักเสบ และการทำอัลตราซาวน์ด้วยเทคนิค non thermal effect หรือไม่ทำให้เกิดความร้อน เพื่อช่วยเพิ่มกระบวนการซ่อมสร้างของร่างกาย กระตุ้นให้ระยะการอักเสบผ่านไปไวขึ้น หรือแม้แต่การบาดเจ็บเรื้อรังที่อาจทำให้เกิดภาวะข้อติด เราสามารถใช้เทคนิค Mobilization เพื่อเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหว หรือการอัลตราซาวน์เพื่อเพิ่มการขยายตัวของหลอดเลือด ลดอาการปวดได้
- Myofascial release technique เพื่อช่วยปรับ Posture ซึ่งเป็นการ Balance tension ของ Fascia หรือคลายความตึงตัวของผังพืดที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย
- Clinical Pilates workout สุดท้ายโปรแกรมการเรียนพิลาทิสที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการจัด alignment ของข้อเท้า ข้อเข่า ข้อสะโพก การเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขา และก้น รวมถึงเน้นการทำงานของ Back chain หรือ Hamstring เพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และกระตุ้นประสิทธิภาพในการทรงตัวบนขาข้างเดียว และที่สำคัญที่สุดคือการปรับเปลี่ยน Posture เพื่อให้บุคลิกภาพในขณะที่วิ่งนั้นมีความเหมาะสมมากที่สุด