Location
ASOKE & CHIDLOM BTS
Call
092 246 9955
Line Chat
@lephysioclinic
Opening Hours
Mon - Sunday: 7.30AM - 9.30PM

Shockwave Therapy Bangkok

เครื่อง Radial Shockwave คืออะไร

Radial Shockwave Therapy หรือการบำบัดด้วยคลื่นกระแทกแบบกระจาย เป็นเทคโนโลยีการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ใช้ คลื่นกระแทกพลังงานต่ำถึงปานกลาง ยิงเข้าสู่ร่างกายบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บหรือปวดเรื้อรัง เพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูตามธรรมชาติของร่างกาย โดยไม่ต้องอาศัยการผ่าตัดหรือการใช้ยา

ปัจจุบัน Radial Shockwave ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในเวชศาสตร์การกีฬา และกายภาพบำบัด เนื่องจากให้ผลการรักษาที่ชัดเจน รวดเร็ว และปลอดภัย

หลักการทำงานของเครื่อง Radial Shockwave

เครื่อง Radial Shockwave จะปล่อย คลื่นกระแทกที่มีแรงดันและความถี่เฉพาะ เข้าไปยังเนื้อเยื่อเป้าหมายบริเวณที่มีอาการบาดเจ็บหรือเจ็บปวดเรื้อรัง คลื่นเหล่านี้จะกระจายตัวในลักษณะรัศมี ส่งผลให้เนื้อเยื่อรอบข้างได้รับการกระตุ้นไปพร้อมกันในวงกว้าง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับเซลล์และระบบเนื้อเยื่อ โดยหนึ่งในกระบวนการสำคัญคือการกระตุ้นให้เกิด การไหลเวียนโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งกระตุ้น การสร้างหลอดเลือดใหม่ (angiogenesis) ซึ่งช่วยนำออกซิเจนและสารอาหารเข้าสู่บริเวณที่บาดเจ็บได้ดีขึ้น เป็นการเตรียมพื้นฐานสำหรับการฟื้นฟูอย่างเป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ คลื่นกระแทกยังช่วยกระตุ้น กระบวนการฟื้นฟูของเซลล์และเมตาบอลิซึม (metabolism) ของเนื้อเยื่อ ทำให้เซลล์สามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลต่อการลดอาการอักเสบ การคลายกล้ามเนื้อที่ตึงสะสม และ ลดการส่งสัญญาณความเจ็บปวด จากระบบประสาทไปยังสมอง จึงช่วยบรรเทาอาการปวดโดยไม่ต้องใช้ยา

อีกหนึ่งกลไกสำคัญคือความสามารถในการ ทำลายพังผืดหรือหินปูน ที่สะสมในเนื้อเยื่อ เช่น บริเวณเอ็นหรือข้อต่อ และยังช่วยลด การสะสมของแคลเซียมในกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่อักเสบเรื้อรัง ซึ่งเป็นสาเหตุของความฝืดและการเคลื่อนไหวติดขัด การกระตุ้นให้เกิด "บาดแผลเล็กน้อย" เป็นกลไกที่ช่วยให้ร่างกายเริ่มกระบวนการซ่อมแซมใหม่อีกครั้งอย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ Radial Shockwave ในการรักษาภาวะต่าง ๆ

Radial Shockwave Therapy มีประสิทธิภาพในการรักษาหลากหลายภาวะที่เกี่ยวข้องกับระบบกล้ามเนื้อ เอ็น และพังผืด โดยเฉพาะภาวะที่รักษาด้วยวิธีทั่วไปแล้วไม่ดีขึ้น เช่น 

  • เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ (Plantar Fasciitis): ลดอาการปวดบริเวณส้นเท้า ช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บเรื้อรังของใต้ฝ่าเท้าขณะเดินลงน้ำหนัก
  • เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles Tendinopathy): ลดการอักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่นของเอ็น และช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหว
  • ข้อศอกอักเสบจากการใช้งานซ้ำ (Tennis Elbow / Golfer’s Elbow): ลดปวดและฟื้นฟูเส้นเอ็นกล้ามเนื้อบริเวณด้านในและด้านนอกข้อศอก
  • ไหล่ติด และเอ็นหัวไหล่อักเสบเรื้อรัง (Shoulder Tendinopathy / Calcific Tendinitis): ลดพังผืด แก้ปัญหาการเคลื่อนไหวติดขัด และบรรเทาอาการปวด
  • กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Myofascial Pain Syndrome): คลื่นกระแทกช่วยลดจุดกดเจ็บ (Trigger Points) และคลายความตึงตัวกล้ามเนื้อ

ภาวะพังผืดหลังผ่าตัดหรือการบาดเจ็บ (Post-surgical Fibrosis): ช่วยลดการยึดติดของเนื้อเยื่อ ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น

การรักษาอาการเจ็บปวดเรื้อรังด้วย Radial Shockwave

การรักษาด้วยคลื่นกระแทกนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ อาการเจ็บปวดเรื้อรัง ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบเดิม หลักการคือการ กระตุ้นให้ร่างกายเกิด "บาดเจ็บเล็กน้อย" อย่างควบคุม เพื่อกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูของร่างกายใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลให้เพิ่มการไหลเวียนเลือด และเร่งกระบวนการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ ส่งผลให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น เจ็บน้อยลง และฟื้นตัวเร็วขึ้น 

ผลลัพธ์ที่ได้คือ การลดอาการปวด เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและเอ็นที่ตึงตัว ลดพังผืด และทำให้บริเวณที่รักษามีการทำงานที่ดีขึ้นในระยะยาว

ข้อดีของการรักษาด้วยเครื่อง Radial Shockwave

  • ไม่ต้องผ่าตัด / ไม่มีแผล / ไม่ใช้ยา
  • ลดอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในกรณีที่เรื้อรัง
  • ใช้เวลารักษาสั้น ทำเสร็จได้ภายในไม่กี่นาที
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาแก้ปวดได้
  • ไม่มีผลข้างเคียงระยะยาวที่สำคัญ
  • ช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อ

ผลลัพธ์ระยะสั้นและระยะยาว

  • ระยะสั้น: ผู้ป่วยหลายคนเริ่มรู้สึกดีขึ้นหลังรับการรักษา 1–3 ครั้ง โดยเฉพาะอาการปวดลดลง และเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
  • ระยะยาว: เมื่อรักษาอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดหรือการออกกำลังกายที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงของการกลับมาเป็นซ้ำ และเพิ่มคุณภาพชีวิตโดยรวม

เห็นผลการรักษาเร็วแค่ไหน? และควรทำบ่อยแค่ไหน?

ผลการรักษาอาจเริ่มเห็นได้ใน 1–3 ครั้งแรก โดยเฉพาะอาการปวดที่ลดลงและการเคลื่อนไหวที่ดีขึ้น

โดยทั่วไปแนะนำให้ทำ ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3–6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาของอาการ หลังการรักษาอาจรู้สึกระบมหรือปวดเล็กน้อย ซึ่งมักหายได้เองภายใน 1–2 วัน

สามารถทักเข้ามาปรึกษาเราก่อนได้ ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

.