ทำไม Le Physio Clinic ถึงได้รับความไว้วางใจมากกว่าหมื่นเคส ในการทำกายภาพบำบัด?
เพราะที่ Le Physio Clinic มีการผสมผสานหลายเทคนิคการรักษา ทั้งการฝึกพิลาทิสเพื่อรักษาบำบัด และการทำกายภาพบำบัดด้วยการใช้เครื่องมือ และหัตถบำบัดเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ทุกเคสจะได้รับการรักษาโดยนักกายภาพบำบัดมากประสบการณ์ รวมถึงมีการตรวจประเมินร่างกายและพูดคุย เพื่อวางแผนการรักษาให้มีประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมาย

Le Physio Clinic ให้การรักษาโดยนักกายภาพบำบัดวิชาชีพ
ทีมกายภาพบำบัดของเราได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานของคลินิกอย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการดูแลที่ท่านได้รับจะมีคุณภาพ ปลอดภัย และตรงจุดมากที่สุด และมีการดูและติดตามเคสทุกเคสอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา เพื่อมั่นใจว่าจะได้รับผลการรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด
แนวทางการรักษาเฉพาะของ Le Physio Clinic
ที่ Le Physio Clinic เรามีแนวทางบำบัดที่เน้นการเข้าใจร่างกายของคุณอย่างแท้จริง นักกายภาพบำบัดของเราจะวิเคราะห์โครงสร้างร่างกายและท่าทางในชีวิตประจำวันของคุณ เพื่อหาสาเหตุรากของปัญหา เราใช้การบำบัดด้วยมือ (Manual Therapy), การคลายพังผืด (Myofascial Release), การฝึกท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล และเสริมด้วยเทคโนโลยีบำบัดที่ทันสมัย เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรงและยืดหยุ่นในระยะยาว
สิ่งที่เราภาคภูมิใจไม่ได้มีเพียงทักษะทางการรักษาที่แม่นยำและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาที่ทำด้วย “หัวใจ” นักกายภาพบำบัดของเราทุกคนให้การดูแลคุณด้วยความเอาใจใส่ และความจริงใจ เหมือนดูแลคนในครอบครัว เพื่อให้คุณสัมผัสได้ถึงความปลอดภัย ความอบอุ่น และกำลังใจตลอดเส้นทางการฟื้นฟู
ที่ Le Physio Clinic เรามุ่งมั่นที่จะไม่เพียงรักษาอาการ แต่ต้องทำให้คุณแข็งแรงจากภายใน เข้าใจร่างกายของตนเอง และกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจในระยะยาว
Le Physio Clinic ให้บริการด้วยเครื่องมือกายภาพบำบัดที่ได้มาตรฐานสากล
PMS (Peripheral Magnetic Stimulation)
PMS เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่ใช้พลังงานจากคลื่นแม่เหล็กในการรักษาอาการปวด โดยสามารถทะลุผ่านเสื้อผ้าและกระตุ้นลึกถึงเนื้อเยื่อชั้นลึกได้สูงสุด 10 เซนติเมตร คลื่นเหล่านี้สามารถกระตุ้นเส้นประสาทโดยตรง และกระตุ้นเนื้อเยื่อในบริเวณที่ปวดได้อย่างแม่นยำ พร้อมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณกล้ามเนื้อโดยรอบอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ขณะรักษาผู้รับการรักษาจะรู้สึกผ่อนคลาย ไม่รู้สึกเจ็บหรือไม่สบาย ในขณะเดียวกัน กล้ามเนื้อยังได้รับการกระตุ้นอย่างเต็มที่ ทำให้เหมาะทั้งในการรักษาอาการปวดจากระบบประสาท และการฟื้นฟูกล้ามเนื้อในกลุ่มนักกีฬา โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง นอกจากนี้ PMS ยังมีประโยชน์ในการช่วยกระชับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานในคุณแม่หลังคลอดอีกด้วย
จุดเด่น: ไม่จำเป็นต้องสัมผัสผิวหนัง, ฟื้นฟูได้ลึกถึงเส้นประสาท, ผ่อนคลายขณะรักษา
เหมาะกับอาการ: ปลายประสาทอักเสบ, อัมพฤกษ์/อัมพาต, ปวดกล้ามเนื้อจากเส้นประสาท, กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน, อาการชาที่เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับ, ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังผ่าตัด, ฟื้นฟูกล้ามเนื้อในนักกีฬา

RSWT (Radial Shockwave Therapy)
RSWT เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นกระแทกความดันสูงแบบกระจาย เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อโดยไม่ต้องผ่าตัด คลื่นที่ปล่อยออกมาจะเดินทางผ่านผิวหนังไปยังกระดูกและเนื้อเยื่อลึก เพื่อกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่และเร่งการฟื้นฟูของเซลล์ที่เสื่อมสภาพ
การรักษาด้วย RSWT เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มนักกีฬาและผู้ที่มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง เช่น เอ็นอักเสบ พังผืด หรือรองช้ำ เนื่องจากเห็นผลเร็ว ช่วยลดปวดและอักเสบได้โดยไม่ต้องใช้ยา
จุดเด่น: กระตุ้นการซ่อมแซมในอาการปวดเรื้อรังได้เป็นอย่างดี, ฟื้นฟูระดับเซลล์
เหมาะกับอาการ: รองช้ำ, Tennis Elbow, เอ็นหัวไหล่อักเสบ, พังผืดสะโพก

RF (Radiofrequency Therapy)
RF คือการใช้คลื่นความถี่วิทยุความถี่สูง เพื่อสร้างความร้อนเฉพาะจุดในเนื้อเยื่อชั้นลึก ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด คลายกล้ามเนื้อ ลดอาการอักเสบ และลดปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความพิเศษของ RF อยู่ที่ “ความรู้สึก” ระหว่างการรักษา เพราะ RF ให้ความรู้สึกอุ่นในระดับลึก อุ่นสบายแต่ไม่ร้อนจนแสบ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริเวณที่เป็นจุดปวดเรื้อรัง โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
จุดเด่น: ร้อนลึก รู้สึกสบายขณะรักษา และไม่ทำลายเนื้อเยื่อ, เห็นผลเร็วในกลุ่มอาการปวดเรื้อรัง
เหมาะกับอาการ: ปวดหลังส่วนล่าง, ข้อเข่าเสื่อม และการบาดเจ็บในข้อเข่า , ปวดจากหมอนรองกระดูกเคลื่อน, ปวดข้อสะโพก,

Ultrasound Therapy
การบำบัดด้วยอัลตราซาวด์คือการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนในเนื้อเยื่ออ่อนของร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดความร้อนภายใน เพิ่มการไหลเวียนของเลือด กระตุ้นการฟื้นฟูของเซลล์ และช่วยลดอาการปวด
นอกจากใช้เดี่ยว ๆ แล้ว Ultrasound ยังสามารถใช้ร่วมกับเจลยา (Phonophoresis) เพื่อเพิ่มการดูดซึมยาเข้าสู่ผิวหนัง ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บเฉพาะจุด เช่น ข้ออักเสบ กล้ามเนื้ออักเสบ หรือพังผืด
จุดเด่น: ใช้ร่วมกับเจลยาได้, เหมาะกับอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน ลดอาการปวดได้อย่างอ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อ
เหมาะกับอาการ: กล้ามเนื้ออักเสบ, อาการบาดเจ็บในระยะเฉียบพลัน, ข้ออักเสบ, พังผืด, แผลผ่าตัด

Electrical Stimulation
การกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้า (Electrical Stimulation) เป็นเทคนิคที่ใช้ส่งกระแสไฟฟ้า ผ่านผิวหนังไปยังกระแสประสาทหรือกล้ามเนื้อ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 2 แบบคือ:
ลดอาการปวด (TENS – Transcutaneous Electrical Nerve Stimulation): กระแสไฟฟ้าจะไปยับยั้งสัญญาณความเจ็บปวดที่ส่งไปยังสมอง และกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารระงับปวดตามธรรมชาติ
กระตุ้นกล้ามเนื้อ (EMS – Electrical Muscle Stimulation): ใช้เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัวเหมือนตอนออกกำลังกาย เหมาะกับผู้ที่กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือขาดการเคลื่อนไหว เช่น ผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรืออัมพาตบางส่วน
จุดเด่น: ปลอดภัย ใช้ลดอาการปวดได้, กระตุ้นเพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
เหมาะกับอาการ: ปวดเรื้อรัง, ปวดกล้ามเนื้อหลังผ่าตัด, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, เส้นประสาทเสื่อม, ผู้ป่วยหลังอัมพาต, Bell’s palsy

เทคนิคการรักษาที่ Le Physio Clinic
Manual Technique
Manual Technique หรือ หัตถการบำบัดด้วยมือ เป็นหนึ่งในศาสตร์หลักของกายภาพบำบัดที่อาศัยการสัมผัสและเทคนิคการจัดตำแหน่ง การกด การยืด การขยับข้อต่อ หรือการปลดล็อกการเคลื่อนไหวของร่างกาย เพื่อบรรเทาอาการปวด เพิ่มความยืดหยุ่น และฟื้นฟูการทำงานของร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติ
เทคนิค Manual Therapy เช่น
Joint Mobilization: ขยับข้อต่ออย่างอ่อนโยนเพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหว
Muscle Energy Technique (MET): ใช้แรงต้านของกล้ามเนื้อร่วมกับการหายใจเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
Soft Tissue Mobilization: กด-คลึงเนื้อเยื่ออ่อน ลดพังผืดและจุดกดเจ็บ
Trigger Point Therapy: กดจุดตึงเพื่อบรรเทาอาการปวดเฉพาะจุด
จุดเด่น: สื่อสารผ่านการสัมผัสโดยตรงระหว่างนักกายภาพและผู้ป่วย, เน้นความแม่นยำ จุดต่อจุด และตอบสนองแบบเรียลไทม์ต่ออาการของผู้ป่วย, เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้เครื่องมือไฟฟ้าได้ เช่น ผู้ตั้งครรภ์หรือผิวหนังบอบบาง
เหมาะกับอาการ: ข้อติด ข้อล็อก เช่น Office syndrome, ข้อไหล่ติด, กล้ามเนื้อตึงเรื้อรัง, พังผืดสะสมหลังการผ่าตัดหรืออุบัติเหตุ

Kinesiology Taping
เทคนิคการติดเทปยืดหยุ่นลงบนผิวหนัง เพื่อช่วยพยุงกล้ามเนื้อและข้อ โดยไม่รบกวนการเคลื่อนไหว ช่วยลดอาการบวม เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง รวมทั้งกระตุ้นการรับรู้ตำแหน่งร่างกาย (Proprioception)
นิยมใช้ในกลุ่มนักกีฬา และผู้ที่มีอาการข้อพลิก บวม หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการบาดเจ็บ
จุดเด่น: ส่งเสริมการเคลื่อนไหวได้เต็มที่, ลดบวม, กระตุ้นกล้ามเนื้อ
เหมาะกับอาการ: ข้อเท้าพลิก, บวมหลังผ่าตัด, support ข้อต่อเพื่อป้องกันการบาดเจ็บในนักกีฬา

Myofascial Release (MFR)
Myofascial Release เป็นเทคนิคการบำบัดด้วยมือที่เน้นการคลายพังผืด (fascia) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และอวัยวะภายในต่าง ๆ พังผืดนี้เมื่อเกิดความตึงสูง มักจะขาดความยืดหยุ่นและมีการไหลเวียนเลือดไม่ดี ทำให้เกิดอาการปวด ตึง หรือเคลื่อนไหวลำบาก
ในภาวะที่พังผืดเกิดความตึงสูง (High tension tissue) เนื้อเยื่อจะขาดการเคลื่อนไหว เพราะ “ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน” – เปรียบได้กับการไม่มี “โลชั่น” (ในที่นี้หมายถึงการไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลือง)
การทำ Myofascial Release จึงเปรียบเสมือนการนำ “โลชั่น” กลับเข้าสู่เนื้อเยื่อ ด้วยการใช้เทคนิคกด ดัน และยืดร่วมกับการเคลื่อนไหวอย่างนุ่มนวล ซึ่งช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและของเหลวภายในเนื้อเยื่อ ผลลัพธ์คือเพิ่มความยืดหยุ่น ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว และช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้ดีขึ้น
จุดเด่น: ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เครื่องมือ, เห็นผลในผู้ปวดเรื้อรัง, เพิ่มการไหลเวียนในเนื้อเยื่อ
เหมาะกับอาการ: Myofascial Pain Syndrome, Office syndrome ปวดหลังเรื้อรัง, พังผืดหลังผ่าตัด, อาการปวดตึงบริเวณบ่า คอ หรือสะบัก

สามารถทักเข้ามาปรึกษาเราก่อนได้ ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
“ Move Well Feel Well “
_________________________
LINE ID : @lephysioclinic
ADD AUTO : https://lin.ee/zXphwKv
CALL : 092-2469955
What’s app : +66922469955
สถานที่: Le Physio Clinic คลินิกกายภาพบำบัด ตั้งอยู่อาคารอินเตอร์เชนจ ชั้น B2 (ชั้นใต้ดินล่างสุด) ติด BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท จอดรถยนต์ฟรี 2 ชม.