การทำงานของระบบประสาท ประกอบด้วย สมอง ไขสันหลัง และเส้นประสาทในร่างกาย ทำหน้าที่ร่วมกันในการรับความรู้สึกของอวัยวะต่าง ๆ และตอบสนองต่อสิ่งแวดล้อม เช่น รู้สึกเย็น ร้อน เจ็บ คัน ปวด แสบ ควบคุมการทำงานของร่างกาย ตลอดจนความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ ความทรงจำต่าง ๆ สมองเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความสลับซับซ้อนในการทำงาน เซลล์สมองมีความจำเพาะและเปราะบาง มีมากกว่าพันล้านเซลล์ สมองทำให้เรามีความสามารถที่จะพูด คิด แก้ปัญหา จำ สั่งการการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ ทำหน้าที่แทบทุกอย่างที่คนเราทำ การดูแลรักษาให้สมองทำงานเป็นปกติ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ก่อนอื่นเราจะมาทราบกันก่อนว่า ปัญหาทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง และการออกกำลังกายแบบ พิลาทิสร่วมกับการทำกายภาพบำบัดจะช่วยได้อย่างไร
โรคหลอดเลือดสมอง
คือภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยงเนื่องจากหลอดเลือดตีบ หลอดเลือดอุดตัน หรือหลอดเลือดแตก ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย ขาดออกซิเจนไปเลี้ยงการทำงานของสมองหยุดชะงัก
อาการของโรคหลอดเลือดสมองจะเกิดขึ้นในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายซึ่งควบคุมโดยพื้นที่ที่เสียหายส่งผลให้เป็นโรคเกี่ยวกับสมอง เช่น อัมพาต, ชาหรืออ่อนแรง, มีปัญหาในการพูด, สับสน, ปัญหาในการทรงตัวและการเดิน เป็นต้น
โรคพาร์กินสัน
เป็นโรคที่เกิดจากเซลล์สมองในส่วนที่สร้างสารเคมีที่ชื่อว่า โดปามีน ซึ่งเป็นสารที่ทำหน้าที่ในการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายเริ่มทำงานเสื่อมสภาพลงจนไม่สามารถผลิตสารนี้ได้อีกต่อไป จึงมีผลให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ โรคนี้จะพบมากในช่วงอายุ 65-80 ปีขึ้นไป โดยผู้ชายมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ 1.5 เท่า โรคนี้จะดำเนินไปอย่างช้า ๆ แต่สามารถกระทบกับผู้ป่วยได้ในระยะยาว
โดยปกติแล้วโรคนี้จะมีอาการที่แสดงออกมามาก หรือน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่ที่เป็นเหมือนกันคือ โรคนี้จะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเหมือนโรคทางสมองอื่น ๆ และอาการจะเป็นมากขึ้นไปด้วยหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน โดยอาการที่แสดงออกมีดังนี้
- อาการสั่นเกร็ง (Tremor) มักจะมีอาการที่นิ้วมือ แขน ขา โดยจะเกิดอาการสั่นเมื่อไม่ได้เคลื่อนไหว และไม่สามารถควบคุมได้ หากเริ่มทำกิจกรรมอาการสั่นจะลดลง หรือหายไป และอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อร่วมด้วย
- เคลื่อนไหวช้า (Bradykinesia) ใช้เวลานานในการเคลื่อนไหว หรือช้ากว่าปกติ ทำให้เกิดความยากลำบากในชีวิตประจำวัน และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้
- ท่าเดินผิดปกติ (posture instability) ผู้ป่วยจะมีอาการก้าวเดินสั้น ๆ ในช่วงแรกและจะก้าวยาวขึ้น จนเร็วมาก และไม่สามารถหยุดได้ทันทีนอกจากนี้ยังอาจมีอาการหลังค่อม แขนไม่แกว่ง หรือเดินแข็งทื่อเหมือนหุ่นยนต์
- การแสดงสีหน้าเหมือนใส่หน้ากาก (masking face)ผู้ป่วยจะมีใบหน้าเฉยเมยเวลาพูดมุมปากจะยกขึ้นเพียงเล็กน้อยทำให้ดูเหมือนไม่มีอารมณ์ร่วม
- พูดเสียงเบาผู้ป่วยบางรายจะมีอาการพูดไม่ชัด พูดเสียงเบา หรือเสียงอาจหายไปในลำคอ บางรายอาจมีอาการพูดรัวเร็ว ระดับเสียงในการพูดอยู่ในระดับเดียวกันตลอด และอาจมีน้ำลายสอออกมาคลออยู่ที่มุมปาก
โรคอัลไซเมอร์
โรคที่เป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อมชนิดที่พบได้มากที่สุด ส่งผลต่อสมองส่วนที่ควบคุมความคิด ความทรงจำ และการใช้ภาษา อาการของโรคจะเริ่มจากการหลงลืมที่ไม่รุนแรงจนแย่ลงเรื่อย ๆ ถึงขั้นไม่สามารถสนทนาโต้ตอบหรือมีการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง อาการเริ่มแรกของโรคอัลไซเมอร์อาจมีอาการหลงลืมหรือภาวะสับสนที่ค่อย ๆ พัฒนาไปอย่างช้า ๆ โดยใช้เวลาหลายปี ซึ่งบางครั้งมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นจนทำให้เกิดความสับสน และอาจเข้าใจผิดไปว่าเป็นเพียงอาการหลงลืมเมื่ออายุมากขึ้น ทั้งนี้อาการในผู้ป่วยแต่ละรายก็พัฒนาช้าเร็วแตกต่างกัน ทำให้สามารถคาดเดาได้ยากว่าอาการจะแย่ลงเมื่อใด อัลไซเมอร์เกิดจากการฝ่อตัวของสมองซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองบริเวณนั้น ๆ ส่วนสาเหตุที่สมองฝ่อตัวลงนี้ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
- พิลาทิสช่วยได้อย่างไร ?
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ โดยหากผู้ป่วยออกกำลังกายเป็นประจำทุก ๆ วันเจะสามารถกระตุ้นการทำงานของสมองได้ ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อการทำงานของข้อต่อ กล้ามเนื้อ และหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้นอนหลับดีและป้องกันอาการท้องผูกได้ด้วย
โรคปลอกประสาทอักเสบ
เป็นโรคที่มีการอักเสบของปลอกประสาทที่หุ้มเส้นประสาทในส่วนของ สมอง เส้นประสาทตา และไขสันหลัง โดยปลอกประสาทมีหน้าที่สำคัญในการนำกระแสประสาท ซึ่งเมื่อมีการอักเสบของปลอกประสาทส่งผลให้การนำกระแสประสาทของอวัยวะนั้นผิดปกติ ทำให้เกิดอาการ อาการแสดงของโรค เช่น เส้นประสาทตาอักเสบทำให้มีอาการตามัว มองไม่ชัด หรือ ไขสันหลังอักเสบ ทำให้มีอาการขาสองข้างอ่อนแรง เป็นต้น
ในแต่ละคนอาการของโรคจะหนักเบาไม่เท่ากัน และยังมีอาการที่หลากหลายแตกต่างกันไป ผู้ป่วยบางคนแสดงอาการน้อยมากหรือบางคนก็อาจมีอาการหนักจนใช้ชีวิตประจำวันยากลำบาก รุนแรงไปจนถึงพิการก็มี ลองมาดูอาการที่พบบ่อยหากเป็นโรค MS
- ด้านการมองเห็นเห็นภาพซ้อน มองไม่เห็น เจ็บตา ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่ง
- ด้านการทรงตัวสูญเสียการทรงตัว อ่อนแรง ขากระตุก หกล้มง่ายมือสั่น การเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่สอดคล้องกัน
- ด้านสมองมีปัญหาด้านความคิด การตัดสินใจ ความจำ รับและทำความเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ ได้ช้า อาจมีอารมณ์แปรปรวน และซึมเศร้าได้
- ด้านการพูดพูดไม่ชัด รวมไปถึงเคี้ยวหรือกลืนอาหารลำบาก
- ด้านระบบปัสสาวะปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ และท้องผูกอยู่บ่อย ๆ
- รู้สึกเหนื่อยล้าง่ายเหน็บชาตามแขนขา และบริเวณใบหน้า เมื่อขยับคอจะรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต
- พิลาทิสช่วยได้อย่างไร ?
เนื่องจากพิลาทิสเป็นการออกกำลังกายที่สามารถปรับความหนักเบาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับผู้ป่วย MS ที่มีอาการเหนื่อยล้าง่าย นอกจากนี้ยังเป็นการออกกำลังกายที่เน้นไปในส่วนของการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ซึ่งจำเป็นต่อการทรงตัวให้ผู้ป่วยที่อาจมีปัญหาได้ พิลาทิสเน้นการควบคุมร่างกายจะช่วยให้ลดภาวะสั่น และลดความเสี่ยงต่อการล้มได้อีกด้วย
หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท (HNP) เกิดจากการแตกของหมอนรองกระดูกสันหลังจนทำให้น้ำในหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนออกมาจนกดทับเส้นประสาท ซึ่ง HNP นั้นมีความแตกต่างจากอาการปวดหลังทั่วไป โดย HNP นั้นมีอาการชา ปวด อ่อนแรงของขาข้างที่เส้นประสาทนั้นถูกกดทับ โดยอาการจะปวดมากเมื่อนั่งหรือก้มหลัง เมื่อไอหรือจามจะปวดมากขึ้น แต่อาการจะดีขึ้นเมื่อยืนหรือเดิน ส่วนอาการปวดหลังนั้นอาการจะไม่รุนแรง
HNP ไม่มีอาการชาร้าวลงขาหรืออ่อนแรงใดๆ ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน สาเหตุของ HNP นั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น การยกของหนักในท่าก้มหลัง การเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลัง อุบัติเหตุ เป็นต้น
เส้นประสาทการทรงตัวอักเสบ
เป็นการอักเสบของเส้นประสาทหู (Vestibulocochlear nerve) ส่วนควบคุมการทรงตัว ทำหน้าที่รับข้อมูลจากอวัยวะทรงตัวที่อยู่ภายในหูชั้นใน ซึ่งอวัยวะการทรงตัว ประกอบด้วย ท่อรูปครึ่งวงกลมลักษณะเป็นห่วงสามห่วง และกระเปาะสองกระเปาะเรียกว่า ยูตริเคิล (Utricle) และแซคคูล (Saccule) โดยในส่วนของยูตริเคิลจะมีตะกอนหินปูน (Otoconia) ที่เกาะอยู่กับเส้นประสาท ทำหน้าที่รับรู้การเคลื่อนไหวของศีรษะ เช่น เมื่อเอียงศีรษะไปทางด้านขวา หินปูนก็จะเอียงไปยังด้านขวาเพื่อส่งสัญญาณไปยังสมองทำให้สามารถทรงตัวได้อย่างมั่นคง หากเส้นประสาทการทรงตัวอักเสบก็จะทำให้สมองรวบรวมข้อมูลที่ได้จากหูซ้าย และหูขวา ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน เห็นภาพเบลอ และทรงตัวลำบากตามมา
- พิลาทิสช่วยได้อย่างไร ?
เมื่อมีอาการเวียนศีรษะขณะเดิน ควรหยุดเดินและนั่งพัก เพราะการฝืนเดินขณะเวียนศีรษะอาจทำให้ผู้ป่วยล้ม โดยส่วนใหญ่แพทย์จะให้การรักษาโดยการให้ยาที่กดการรับรู้ของประสาททรงตัว เพื่อให้หายจากอาการเวียนศีรษะ และเมื่ออาการเวียนศีรษะน้อยลงแล้ว ควรให้เริ่มการบริหารระบบทรงตัว (head balance exercise) เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสมดุลของระบบประสาททรงตัวได้ การบริหารดังกล่าวเป็นการฝึกฝนการปรับวิสัยการทรงตัวต่อตัวกระตุ้นสมมุติที่สร้างขึ้น จะสร้างนิสัย“เคยชิน”ต่อสภาวะนั้น ๆ ให้เกิดขึ้นในอวัยวะทรงตัว เพื่อให้สามารถใช้การทรงตัวได้อย่างดีในสภาวะต่างๆ ได้แก่ การฝึกบริหารสายตา ฝึกกล้ามเนื้อ คอ แขนขา ฝึกการเคลื่อนไหวศีรษะและคอ รวมทั้งการเดิน และยืน เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้มีประสิทธิภาพที่สุด
ปัญหาทางระบบประสาทและสมอง - Real Case
1. ลูกค้าชายชาวต่างชาติ มาด้วยอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้
จากการตรวจร่างกายพบว่าลูกค้ามี
2. จากการซักประวัติและตรวจร่
3. นอกจากนี้ระหว่างการออกกำลั
4. การออกกำลังกายที่สตูดิโอจะเน้
หลังจากผ่านไปหลายครั้ง พบว่าลูกค้ามีพัฒนาการที่ดีขึ้